ผลบอล

ถือว่าเป็นวันของ “ราฟาเอล วาราน” หลังทำทีมเสีย 2 ประตู จนทำให้ทีม “แมนเชสเตอร์ ซิตี้” เปิดบ้านอัด “เรอัล มาดริด” ไปแบบสุดมันส์ 2-1 รวมผลสองนัด 4-2 ผ่านเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้าย ในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย

“ม้าลาย” ยูเวนตุส ฉลองแชมป์ “สคูเด็ตโต้” แบบกร่อยๆ หลังเปิดบ้านพ่ายแพ้ต่อ “โรม่า” แบบขาดลอย 1-3 และยังเป็นการแพ้ในบ้านเกมแรกของซีซั่นนี้อีกด้วย ในศึกฟุตบอล กัลโช่ ซีเรีย อา อิตาลี นัดที่ 38 ของฤดูกาล ฟุตบอลลีก กัลโช่ ซีเรีย อา อิตาลี นัดสุดท้ายของฤดูกาล 2019/20

“ปืนใหญ่” อาร์เซน่อล ทำได้พลิกกลับมาชนะ “สิงห์บูลล์” เชลซี ที่เหลือ 10 คน ด้วยสกอร์ 2-1 ทำให้ความแชมป์ เอฟเอ คัพ สมัยที่ 14 ของสโมสรไปครอง โดยนัดนี้ “ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมย็อง” ซัดคนเดียว 2 ประตู ในศึกฟุตบอล เอฟเอ คัพ

“แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด” ทำได้ บุกไปเอาชนะ “เลสเตอร์ ซิตี้” ที่เหลือ 10 คน ได้ขาดลอย 2-0 ส่งผลให้ “ปีศาจแดง” จบอันดับ 3 พร้อมคว้าตั๋วไปเล่น ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ปีหน้าได้สำเร็จ ในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดที่ 38 ของฤดูกาล

“ปีศาจแดงดำ” เอซี มิลาน ยังฟอร์มร้อนแรงต่อเนื่อง หลังสามารถเปิดบ้านเสมอ “อตาลันต้า” ไปด้วยสกอร์ 1-1 ทำให้ยังคงสถิติไม่แพ้ใครในบ้าน หลังกลับมารีสตาร์ทได้ 9 นัด ในศึก กัลโช่ ซีเรีย อา อิตาลี นัดที่ 36 ของฤดูกาล เมื่อคืนวันที่ 24 กรกฎาคม ที่ผ่านมา โดยเป็นการพบกันของ

“หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ยิงฉลองแชมป์ ด้วยการเปิดบ้านถล่ม “เชลซี” ไปแบบสนุก 5-3 พร้อมส่งให้ “จอร์แดน เฮนเดอร์สัน” กัปตันทีม ชูถ้วยแชมป์ลีก ซีซั่นนี้ แบบเป็นทางการ ส่วน “สิงห์บูลล์” ต้องไปลุ้นตั๋ว ชปล. นัดสุดท้ายกับ “วูล์ฟแฮมป์ตัน” ในศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดที่ 37

“อาร์เซน่อล” บุกน้อยแต่คมกว่า ทำให้เอาชนะ “แมนเชสเตอร์ ซิตี้” ไปได้ด้วยสกอร์ 2-0 ส่งผลให้ทีมผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศต่อไป โดยนัดนี้ “ปีแอร์-เอเมอริค โอบาเมย็อง” ซัดคนเดียว 2 ประตู ในศึกฟุตบอลถ้วย เอฟเอ คัพ รอบ 4 ทีมสุดท้าย เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 18 กรกฎาคมที่ผ่านมา มีการแข่งขันฟุตบอล เอฟเอ

“ราชันชุดขาว” ทำได้ตามเป้า เปิดบ้านเฉือนเอาชนะ “บียาร์เรอัล” ไปได้ 2-1 ทำให้ซิวแชมป์ ลาลีกา สเปน สมัยที่ 34 มาครองได้สำเร็จ โดยนัดนี้ “คาริม เบนเซม่า” ทำคนเดียว 2 ประตู ในศึกฟุตบอล ลาลีกา สเปน นัดที่ 37 ของฤดูกาล เมื่อคืนวันพฤหัสบดีที่

“อาร์เซน่อล” ดับฝัน การทุบสถิติ 100 คะแนน ของ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ด้วยการเปิดบ้านเฉือนเอาชนะ ด้วยสกอร์ 2-1 ทำให้ “ปืนใหญ่” ยังได้ลุ้นคว้าตั๋วไปเล่นฟุตบอลยุโรป ถ้วยเล็ก อย่าง ยูโรปา ลีก ในอีก 2 เกมที่เหลือ ในศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดที่

“สิงห์บูลล์” เชลซี เกือบแย่ หลังเฉือนเอาชนะ “นอริช ซิตี้” 1-0 ด้วยลูกโขกของ “โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์” ทำให้ทีมเจ้าบ้าน เก็บเพิ่มเป็น 63 แต้ม พร้อมรั้งอันดับ 3 ของตาราง และทำคะแนนทิ้งห่าง “แมนยู” และ “เลสเตอร์” ถึง 4 แต้ม ในศึกฟุตบอล

“ม้าลาย” ยูเวนตุส เปิดบ้านตามตีเสมอ “อตาลันต้า” แบบสุดมันส์ 2-2 แม้จะเก็บเพิ่มได้เพียงแต้มเดียว แต่ก็ยังรั้งจ่าฝูงอย่างต่อเนื่อง พร้อมทิ้งห่าง “ลาซิโอ” ถึง 8 คะแนน โดยนัดนี้ “คริสเตียโน่ โรนัลโด้” ซัดจุดโทษไปถึง 2 หน ในศึกฟุตบอล กัลโช่ ซีเรีย อา อิตาลี นัดที่

“ราชันชุดขาว” เรอัล มาดริด ยังโชว์ฟอร์มโหด เปิดบ้านอัด “เดปอร์ติโบ อลาเบส” แบบสบายๆ 2-0 ส่งผลให้ทีมเก็บชัยชนะเป็นเกมที่ 8 ติดต่อกันในลีก พร้อมทั้งยังทำคะแนนทิ้งห่าง “บาร์เซโลน่า” รองจ่าฝูง ถึง 4 แต้ม ในศึก ลาลีกา สเปน นัดที่ 35 ของฤดูกาล เมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา

“ไก่เดือยทอง” ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ ดวงเฮง หลังเปิดบ้านเอาชนะ “เอฟเวอร์ตัน” มาได้ 1-0 จากการทำเข้าประตูตัวเอง ของ “ไมเคิล คีน” ทำให้เจ้าบ้าน เก็บเพิ่มเป็น 48 แต้ม ขยับไล่จี้ อันดับ 7 อย่าง “อาร์เซน่อล” เหลือเพียง 1 แต้ม เท่านั้น

“ลิเวอร์พูล” เรียกฟอร์มกลับมาได้ ด้วยการเปิดบ้านเอาชนะ “แอสตัน วิลล่า” 2-0 โดยเกมนี้ “ซาดิโอ มาเน่” และ “เคอร์ติส โจนส์” ซัดไปคนละประตู ทำให้ “หงส์แดง” เก็บเพิ่มเป็น 89 แต้ม และต้องการอีกเพียง 12 แต้ม เพื่อทำลายสถิติ “แมนซิตี้” ที่ทำไว้ 100

“ปีศาจแดงดำ” เอซี มิลาน สามารถเปิดบ้านเอาชนะ “หมาป่ากรุงโรม” โรม่า ได้แบบสบาย 2-0 ทำให้เจ้าถิ่น เก็บเพิ่มเป็น 42 แต้ม และยังพอมีโอกาสลุ้นตั๋วไปเล่น ยูโรปา ลีก ในฤดูกาลหน้าอยู่ หลังตามหลัง “นาโปลี” อันดับ 5 อยู่เพียง 3 แต้ม เท่านั้น ในศึกฟุตบอล

“รอสส์ บาร์คลี่ย์” ลงมายิงประตูชัย ทำให้ “เชลซี” บุกมาเบียดเอาชนะ “เลสเตอร์ ซิตี้” ไปได้แบบหวุดหวิดที่สกอร์ 1-0 ส่งผลให้ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ เอฟเอ คัพ ในวันที่ 18-19 ก.ค.นี้ โดยจะต้องบุกไปเยือน “แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด” ในศึกฟุตบอล เอฟเอ คัพ รอบ 8 ทีมสุดท้าย

“บาร์เซโลน่า” บุกมานำก่อน 2 ครั้ง แต่ก็โดน “เซลต้า บีโก้” ตามตีเสมอ 2-2 ทำให้ “เจ้าบุญทุ่ม” แม้จะเก็บเพิ่มได้เพียงแต้มเดียว ก็ยังแซง “ราชันชุดขาว” ขึ้นมารั้งจ่าฝูงได้อีกครั้ง ด้วยคะแนน 69 แต้ม แต่แข่งมากกว่า 1 เกม ในศึกฟุตบอล ลาลีกา สเปน นัดที่

“ม้าลาย” ยูเวนตุส เปิดบ้านถล่ม “เลชเช่” ที่เหลือ 10 คนตั้งแต่ครึ่งแรก 4-0 ทำให้ยังคงรั้งจ่าฝูงของตารางแบบสบายๆที่ 69 แต้ม พร้อมทั้งหนีอันดับ 2 อย่าง “ลาซิโอ” ถึง 7 แต้ม โดยนัดนี้ “เปาโล ดีบาล่า” และ “คริสเตียโน่ โรนัลโด้” ซัดกันไปคนละประตู

“สิงห์บูลล์” เชลซี เปิดบ้านเฉือนชนะ “แมนเชสเตอร์ ซิตี้” 10 คน แบบสุดมันส์ที่ 2-1 ทำให้ทีมจี้ที่ 3 เหลือ 1 แต้ม พร้อมหนี “แมนยู” 5 คะแนน และยังส่งให้ “ลิเวอร์พูล” คว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก ซีซั่นนี้อย่างเป็นทางการ หลังรอคอยมา 30

“ลิเวอร์พูล” ไม่พลาด เปิดบ้านถล่ม “คริสตัน พาเลซ” แบบขาดลอย 4-0 ทำให้ฉีกหนีจากรองจ่าฝูง อย่าง “แมนซิตี้” อยู่ที่ 23 แต้ม ซึ่งหาก “เรือใบสีฟ้า” ไม่ชนะ “เชลซี” ในวันนี้ จะส่งให้ “หงส์แดง” คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกทันที แม้จะเหลือการแข่งขันอีก 7 เกมก็ตาม ในศึกฟุตบอล