“สาลิกาดง” นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ผลงานไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่ แต่ต้องเปิดรังรับการมาเยือนของ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ที่หวังคว้าชัยในเกมนี้ เพื่อรั้งจ่าฝูงของตารางคะแนนต่อไป
การแข่งขันฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
วันที่ 30 ธันวาคม 2563 เวลา 03.00 น. (ตามเวลาไทย)
นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด (14) – ลิเวอร์พูล (1)
สนาม เซนต์ เจมส์ พาร์ค
ความพร้อมก่อนการแข่งขัน
ทีมเจ้าบ้าน นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด
นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด เจ้าถิ่นที่มีผลงานไม่ค่อยดีนัก หลังยังไม่ชนะใครมาแล้ว 3 นัดในลีก โดยเกมล่าสุดบุกไปพ่าย แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 2-0 ในลีก และยังบุกไปแพ้ เบรนท์ฟอร์ด ใน คาราบาว คัพ 1-0 จนตกรอบอีกด้วย
ทำให้ในลีก “สาลิกาดง” รั้งอันดับ 14 ของตาราง ด้วยคะแนน 18 แต้ม จากการชนะ 5 เสมอ 3 และแพ้ถึง 6 เกม หลังลงแข่งขันทั้งสิ้น 14 นัด และยังเหลือนัดตกค้างอีก 1 แมตช์
🎙 Steve Bruce's pre-Liverpool press conference is now available to watch on NUFC TV.
— Newcastle United FC (@NUFC) December 29, 2020
โดยเกมนี้ “สตีฟ บรู๊ช” กุนซือของทีม จะไม่มี “อัลล็อง แซงต์-มักซิแม็ง” และ “เจมาล ลาสเซล์ส” ที่ติดเชื้อไวรัส “โควิด-19” รวมถึงอาจต้องรอเช็คความฟิตของ “พอล ดัมเม็ตต์”, “เจฟฟ์ เฮนดริค”, “ไรอัน เฟรเซอร์” และ “จอนโจ เชลวี่ย์” ที่ร่างกายยังไม่สมบูรณ์
สำหรับรายของ “คัลลัม วิลสัน” ที่เป็นตัวสำรองในแมตช์กับ “แมนซิตี้” ในเกมล่าสุด คาดว่าอาจจะได้กลับมาออกสตาร์ทเป็นตัวจริงในนัดนี้ หลังได้พักอย่างเต็มที่
ทีมเยือน ลิเวอร์พูล
ทางด้านทีมเยือน ลิเวอร์พูล ที่ยังคงรั้งจ่าฝูงอย่างต่อเนื่อง ด้วยคะแนน 32 แต้ม ชนะ 9 เสมอ 5 และแพ้เพียงนัดเดียวเท่านั้น โดยทีมมีแต้มนำ เลสเตอร์ ซิตี้ รองจ่าฝูง ที่เพิ่งเสมอมาในเกมล่าสุดกับ คริสตัน พาเลซ ถึง 3 คะแนน
แม้แมตช์ล่าสุด “หงส์แดง” เพิ่งจะพลาดท่าเสมอ เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน ในถิ่น แอนฟิลด์ 1-1 รวมถึงก่อนหน้านี้ ยังบุกไปถล่ม คริสตัน พาเลซ ถึง 7-0 ทำให้ทีมยังไม่แพ้ใครในลีกมาแล้ว 5 เกมติดต่อกัน
Klopp has provided an update on the progress Thiago is making with his recovery from a knee injury.#NEWLIV
— Liverpool FC (@LFC) December 29, 2020
ในส่วนนัดนี้ เฮดโค้ชของทีม อย่าง “เจอร์เก้น คล็อปป์” จะไม่มี “โฌแอล มาติป” กองหลังคนสำคัญ หลังได้รับบาดเจ็บกล้ามเนื้อจากนัดล่าสุด ทำให้มีโอกาสสูงที่จะไม่พร้อมสำหรับแมตช์นี้
จึงทำให้ทีมจำเป็นต้องเลือกส่งดางรุ่ง อย่าง “รีห์ส วิลเลี่ยมส์” ลงเล่นในตำแหน่งคู่เซ็นเตอร์กับ “ฟาบินโญ่” แทน พร้อมทั้งอาจจะให้โอกาส “ทาคูมิ มินามิโนะ” ได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริง เช่นเดียวกับ “อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน” ที่เพิ่งได้ลงสนามในเกมนัดล่าสุดอีกด้วย
สถิติ 5 เกมหลังสุดที่พบกัน
26/07/2020 นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด 1-3 ลิเวอร์พูล
14/09/2019 ลิเวอร์พูล 3-1 นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด
04/05/2019 นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด 2-3 ลิเวอร์พูล
26/12/2018 ลิเวอร์พูล 4-0 นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด
03/03/2018 ลิเวอร์พูล 2-0 นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด
11 ผู้เล่น ที่คาดว่าจะได้ลงสนาม
นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด (5-4-1)
คาร์ล ดาร์โลว์ (GK)
ฆาบี มานกีโย่, เฟเดริโก้ เฟร์นานเดซ, ฟาเบียน ชาร์, คีแรน คล้าร์ก, จามาล ลูอิส
แม็ตต์ ริทชี่, ฌอน ลองสตาฟฟ์, อิซาค เฮย์เดน, โจลินตัน
คัลลั่ม วิลสัน
ลิเวอร์พูล (4-3-3)
อลิสซอน (GK)
เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, รีห์ส วิลเลียมส์, ฟาบินโญ่, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน
อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม
โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ทาคูมิ มินามิโนะ, ซาดิโอ มาเน่
ความเป็นไปได้ในเกมนัดนี้
หากเทียบผลงานกันแล้ว “สาลิกาดง” เจ้าถิ่นเจองานหนักมาอย่างต่อเนื่อง แม้ทัพ “หงส์แดง” จะไม่ค่อยพร้อมเท่าไหร่ โดยเฉพาะเกมรุก แต่ทางด้านเกมรุกก็ยังคงดุดันเช่นเคย
ทำให้เชื่อว่าแมตช์นี้ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด จะเปิดบ้านพ่ายให้กับ ลิเวอร์พูล เป็นเกมที่ 3 ติดต่อกัน ด้วยสกอร์ 1-3
ขอบคุณรูปภาพจาก Newcastle United FC, Liverpool FC
#ข่าวกีฬา #ข่าวฟุตบอลไทย #วิเคราะห์ฟุตบอล ufafeversport #Preview ก่อนเกม #พรีเมียร์ลีก #ซีซั่น 2020/21 #นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด #ลิเวอร์พูล