“สิงห์บูลส์” เชลซี หวังเปิดบ้านคว้าชัย เพื่อทำแต้มขึ้นท็อปโฟร์ แต่ต้องรับการมาเยือน “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ยังไม่แพ้ใครในลีกมาแล้ว 12 เกมติดต่อกัน
การแข่งขันฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา 23.30 น. (ตามเวลาไทย)
เชลซี (5) – แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (2)
สนาม สแตมฟอร์ด บริดจ์
ความพร้อมก่อนการแข่งขัน
ทีมเจ้าบ้าน เชลซี
เชลซี เจ้าถิ่น ที่ช่วงนี้ผลงานโดดเด่นอย่างมาก หลังยังไม่แพ้ใครมาแล้ว 8 นัดติดต่อกัน ในทุกรายการ หลังชนะ 6 เสมอ 2 โดยเกมล่าสุด เพิ่งจะบุกไปเอาชนะ แอตเลติโก มาดริด 1-0 ในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย
ส่วนในลีก แม้จะเสมอ เซาธ์แฮมป์ตัน แมตช์ล่าสุด แต่ปัจจุบัน “สิงห์บูลส์” ยังคงรั้งอันดับ 5 ของตารางคะแนน พรีเมียร์ลีก ด้วยการมี 43 แต้ม ตามหลัง เวสต์แฮม ยูไนเต็ด อันดับ 4 เพียง 2 คะแนนเท่านั้น
We'll be missing one player on Sunday… 🤕#CHEMUN
— Chelsea FC (@ChelseaFC) February 26, 2021
ซึ่งเกมนี้ “โธมัส ทูเคิ่ล” เฮดโค้ชของ “สิงโตน้ำเงินคราม” จะไม่มีเพียง “ติอาโก้ ซิลวา” ปราการหลังคนสำคัญรายเดียว หลังไม่สามารถเรียกความฟิตลงช่วยทีมได้ทัน
ทีมเยือน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ทางด้านผู้มาเยือน อย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ยังไม่แพ้ใครมา 8 นัดในทุกรายการเช่นกัน ซึ่งแม้เกมล่าสุด จะเปิดบ้านเสมอ เรอัล โซเซียดาด 0-0 ในศึก ยูฟ่า ยูโรปา ลีก รอบ 32 ทีมสุดท้ายก็ตามที แต่ก็สามารถผ่านเข้ารอบต่อไปได้สำเร็จ
สำหรับในลีก “ปีศาจแดง” ก็เพิ่งเปิดรัง โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด อัดทีม นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด 3-1 จนทำให้ปัจจุบันทีมรั้งรองจ่าฝูงของตารางคะแนน พรีเมียร์ลีก โดยมี 49 แต้ม จากการลงแข่ง 25 นัดตามหลังคู่ปรับร่วมเมือง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จ่าฝูงอยู่ที่ 13 คะแนน
ℹ️ The boss has issued a fresh update on @Donny_Beek6…#MUFC #CHEMUN
— Manchester United (@ManUtd) February 27, 2021
โดยแมตช์นี้ กุนซือ “แมนยู” อย่าง “โอเล่ กุนนาร์ โซลชา” จะไม่มี “ปอล ป็อกบา” จอมทัพตัวเก่ง เนื่องจากมีปัญหาอาการบาดเจ็บต้นขา รวมถึง “ฆวน มาต้า” ที่มีบาดเจ็บกล้ามเนื้อ จนไม่สามารถลงสนามช่วยทีมได้อีกราย
สถิติ 5 เกมหลังสุดที่พบกัน
24/10/2020 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 0-0 เชลซี
19/07/2020 (FAC) แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1-3 เชลซี
17/02/2020 เชลซี 0-2 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
30/10/2019 (EFL) เชลซี 1-2 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
11/08/2019 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 4-0 เชลซี
• FAC = เอฟเอ คัพ, EFL = ลีกคัพ หรือคาราบาว คัพ
11 ผู้เล่น ที่คาดว่าจะได้ลงสนาม
เชลซี (3-4-2-1)
เอดูอาร์ด เมนดี้ (GK)
เซซ่าร์ อัซปิลิกวยต้า, อันเดรียส คริสเตนเซ่น, อันโตนิโอ รูดิเกอร์
คัลลัม ฮัดสัน-โอดอย, จอร์จินโญ่, มาเตโอ โควาซิช, มาร์กอส อลอนโซ่
เมสัน เมาท์, ติโม แวร์เนอร์
โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (3-4-1-2)
ดาบิด เด เคอา (GK)
เอริก ไบยี่, วิคตอร์ ลินเดเลิฟ, แฮร์รี่ แม็คไกวร์
อารอน วาน-บิสซาก้า, เนมานย่า มาติช, เฟร็ด, ลุค ชอว์
บรูโน่ แฟร์นานเดส
มาร์คัส แรชฟอร์ด, อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล
ความเป็นไปได้ในเกมนัดนี้
เกมนี้ถือว่าเป็น บิ๊กแมตช์ประจำสัปดาห์ และถือว่าค่อนข้างสูสีหากมองที่ฟอร์มของทั้งคู่ โดยเจ้าบ้าน “สิงห์บูลส์” ที่ยังไม่แพ้ใครมาแล้วถึง 8 เกม กลับกันทางทีมเยือน “ปีศาจแดง” ก็ไม่แพ้ใครมาแล้ว 8 นัด ในทุกรายการเช่นกัน
แต่ด้วยผลงานในเกมล่าสุดของทั้งคู่ในถ้วยยุโรป ทำให้เชื่อว่านัดนี้ เชลซี ที่มีความมั่นใจมากกว่า จะเปิดบ้านเฉียนเอาชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้แบบสุดมันส์ 2-1
ขอบคุณรูปภาพจาก Chelsea FC, Manchester United
#ข่าวกีฬา #ข่าวฟุตบอลไทย #วิเคราะห์ฟุตบอล ufafeversport #Preview ก่อนเกม #พรีเมียร์ลีก #ซีซั่น 2020/21 #เชลซี #แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด #บิ๊กแมตช์ประจำสัปดาห์