วันอังคารที่ 8 พฤษภาคม 2562 / เวลา 01.45
ในกระแสของสื่อสังคมออนไลน์ตอนนี้ คงยากจะหาเรื่องใดมาทัดเทียม ความคลั่งไคล้ในหนังมหากาพย์ของค่าย Marvel หรือ เรื่องมหามงคลทั้งในบ้านเราและที่ต่างประเทศ แต่แล้ว ใครจะคิดว่าปรากฏการณ์ที่เรียกได้ว่า ปาฏิหาริย์ ก็คงน้อยไป จะเกิดขึ้นในค่ำคืนที่ผ่านมา
การพบกันเป็นครั้งที่สอง ของรอบรองชนะเลิศ ศึกฟุตบอลชิงจ้าวยุโรประหว่าง หงส์แดง ลิเวอร์พูล ทีมเจ้าบ้าน กับ ทีมเยือน มนุษย์ต่างดาว บาร์เซโลน่า งานพลิกนรกของ ลิเวอร์พูล หลังจากโดนยิงเละมาก่อน 3-0 ในแมตช์แรก คืนนี้จะไม่มีทั้งซาลาห์และโรแบร์โต้ ฟิร์เมียโน่ ลงทำเกมในแนวรุก ด้านบาร์เซโลน่าวันนี้ขนมาทั้งดาว จัดเต็มชุดแนวหน้าทั้งลิโอเนล เมสซี่, หลุยส์ ซัวเรซและฟิลิปเป้ คูตินโญ่
ครึ่งแรก
ยังไม่ทันหยิบเครื่องดื่มแก้ง่วง ลิเวอร์พูล ก็ได้ประตูขึ้นนำอย่างรวดเร็วในนาทีที่ 7 จากจังหวะที่ เฮนเดอร์สัน ลากเข้ากรอบเขตโทษยิงไปติด เซฟของแทร์ สเตเก้น บอลกระดอนมาเข้าทาง โอริกี้ ตามซ้ำสบายเท้าเข้าไปนิ่มๆ 1-0!!! ลิเวอร์พูลขึ้นนำแล้ว
เมื่อหนวดเสือถูกกระตุก การสวนกลับเร็วของบาร์เซโลน่าเลยเริ่มทำดีขึ้น เมื่ออัลบาเลี้ยงตัดกองหลังก่อนไหลให้เมสซี่ได้ตะบันด้วยซ้ายแล้วแต่อลิสซอนปัดทิ้งข้ามคานไป
เกมเล่นกันเร็วจริงแต่ต้องมาหยุดลงเมื่อเฮนเดอร์สันล้มแล้วเข่าไปชนกับเท้าของล็องเลต์ นอนเครียดอยู่พักใหญ่แต่สุดท้ายลุกขึ้นมาเล่นต่อ
ช่วงทดเวลาบาดเจ็บครึ่งแรก ทีมเยือนเกือบตีเสมอได้ จังหวะที่ชากิรี่จ่ายพลาด ทำให้บาร์ซ่าเติมเกมกันขึ้นมา โรเบร์โต้ลากจี้ก่อนไหลวางมาให้เมสซี่ได้สับด้วยซ้ายหน้ากรอบเขตโทษบอลพุ่งเรียดก่อนเฉี่ยวเสาขวามือออกไป จบครึ่งแรก แฟนหงส์ยังมีหวังอยู่เล็กๆ จากการนำ 1-0
ครึ่งหลัง
ลิเวอร์พูล ต้องเปลี่ยนตัวเอาโรเบิร์ตสันที่เล่นไม่ไหวออกไปแล้วให้ไวจ์นาลดุมลงสนามมาแทน โดยโยกเอา มิลเนอร์ ไปเล่นแบ็คซ้ายในช่วงครึ่งหลัง
และแล้วแสงแห่งความหวังของ แฟน หงส์แดง ก็เริ่มสว่างมากขึ้น ในนาทีที่54 เมื่อเทรนท์ครอสบอลไปเข้าทางของไวจ์นาลดุมวิ่งมาแปบอลไปโดนมือของสเตเก้นแต่บอลมาโดนหลังเข้าประตูตัวเองไป 2-0!!! ลิเวอร์พูลไล่ตามผลประตูรวมมาที่ 2-3
ไม่ต้องลุ้นนาน ถัดมาเพียง 2 นาที ในนาทีที่ 56 เสียงเชียร์ก็ดังสนั่น แอนฟิลด์แทบแตกเมื่อสกอร์เป็น 3-0 จังหวะที่ชากิรี่ได้วางเท้าเปิดริมเส้นด้านซ้ายบอลไปเข้าหัวของไวจ์นาลดุมกระโดดเทคตัวโขกบอลเสียบสามเหลี่ยมเข้าไปหมดจดทำให้ตอนนี้สกอร์รวมเสมอกัน 3-3
เมสซี่ ยังงง ยิงเท่าไหร่ก็ไม่เข้า พยายามกระตุ้นลูกทีม แต่แล้วไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ นาทีแห่งปาฏิหาริย์ก็บังเกิด ในนาทีที่79 เมื่อ ลิเวอร์พูล เล่นสูตรพิสดารพันลึก เทรนท์ทำเป็นหลอกตอนแรกเหมือนไม่เตะจะเดินออก แผงหลัง บาร์ซ่าก็เผลอเหม่อลอย เทรนท์เห็นโอริกี้ว่างเลยแปบอลมาให้ทางเสาแรกก่อนโอริกี้จะตวัดยิงตามน้ำเข้าไปไม่เหลือซาก 4-0!!!
โอริกี้หลังยิงประตูแล้วก็เจ็บขาซ้ายเล่นต่อไม่ไหวต้องเปลี่ยนเอาโจ โกเมซ ลงสนามมาแทนในช่วง 5 นาทีสุดท้ายเพื่ออุดประตู
เสียงนกหวัดดัง จบเกมประวัติศาสตร์ของลิเวอร์พูล เมื่อสามารถพลิกนรกได้สำเร็จ กระซวก บาร์เซโลน่า ศพกระจาย 4-0 ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศ แชมเปี้ยนส์ ลีกหน้าตาเฉยด้วยสกอร์รวม 4-3 นับเป็นการเข้าชิงแชมป์ 2 ปีติดต่อกันอีกด้วย
ขอบคุณข้อมูลดีดีจากเวบ Hugball.net
#football #UCL #Liverpool #Barcelona
