“หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ต้องการคว้าชัยเพื่อการันตีรองจ่าฝูง พรีเมียร์ลีก แต่ต้องเจอคู่แค้นตลอดกาล “แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด” ที่ยังไม่ชนะเกมลีกมา 3 นัดติด ในศึก “แดงเดือด”
การแข่งขันฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
วันที่ 24 ตุลาคม 2564 เวลา 22.30 น. (ตามเวลาไทย)
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (6) – ลิเวอร์พูล (2)
สนาม โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด
ความพร้อมก่อนการแข่งขัน
ทีมเจ้าบ้าน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
สำหรับเจ้าถิ่น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ฟอร์มยังไม่ค่อยคงที่สักเท่าไหร่ แม้เกมล่าสุดเพิ่งจะเปิดบ้านพลิกกลับมาชนะ อตาลันต้า แบบสุดมันส์ 3-2 ในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่ม
Ole knows what it will take to get a result against Liverpool this weekend 🗣️#MUFC | #MUNLIV
— Manchester United (@ManUtd) October 22, 2021
แต่ 2 เกมในลีกทัพ “ปีศาจแดง” ยังไม่ชนะใครมาแล้วถึง 3 นัดติดต่อกัน ด้วยการพ่าย แอสตัน วิลล่า 0-1, เสมอ เอฟเวอร์ตัน 1-1 และบุกไปแพ้ เลสเตอร์ ซิตี้ แบบขาดลอย 2-4
ส่งผลให้ตอนนี้ “แมนยู” รั้งอันดับ 6 ของตารางคะแนน พรีเมียร์ลีก ด้วยการมี 14 แต้ม จากการลงแข่ง 8 นัด ตามหลังจ่าฝูง เชลซี อยู่ที่ 5 คะแนน เท่านั้น
ℹ️ All the key talking points from Ole's press conference…
— Manchester United (@ManUtd) October 22, 2021
Swipe 👉 for the main headlines 📰#MUFC | #MUNLIV
โดยแมตช์นี้ “โอเล่ กุนนาร์ โซลชา” กุนซือ “แมนยู” จะไม่มี “ราฟาเอล วาราน” และ “อาหมัด ดิยัลโล” ที่มีอาการบาดเจ็บ ขณะที่ทาง “บรูโน่ แฟร์นันด์ส”, “อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล”, “เฟร็ด” และ “มาร์คัส แรชฟอร์ด” ยังคงต้องรอเช็คความฟิตอีกที
ทีมเยือน ลิเวอร์พูล
กลับกันผู้มาเยือน “หงส์แดง” ดันมีผลงานที่ค่อนข้างดี หลังยังไม่แพ้ใครมาแล้ว 6 เกมติดต่อกัน รวมทุกรายการ นอกจากนี้ในศึก พรีเมียร์ลีก ยังไม่แพ้เลยหลังผ่านไปแล้ว 8 นัด จากการชนะ 5 เสมอ 3 โดยมี 18 แต้ม ตามหลังจ่าฝูง “สิงห์บูลส์” เพียงแต้มเดียว
Adding some rondos with the Reds to your Friday night 👌🔴 pic.twitter.com/wU7pJU7NOx
— Liverpool FC (@LFC) October 22, 2021
ซึ่งแมตช์ล่าสุด ลิเวอร์พูล เพิ่งจะบุกไปปราชัย แอตเลติโก มาดริด มาได้แบบหวุดหวิด 3-2 รวมถึงในลีกยังสามารถบุกไปถล่ม วัตฟอร์ด 5-0 และเปิดบ้านยันเสมอ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 2-2 อีกด้วย
ทั้งนี้เฮดโค้ช “หงส์แดง” อย่าง “เจอร์เก้น คล็อปป์” ได้รับข่าวดีหลัง “เคอร์ติส โจนส์” มิดฟิลด์ดาวรุ่ง กลับมาฟิตสมบูรณ์แล้ว แต่จะยังคงไม่มี “ติอาโก้ อัลคันทาร่า” และ “ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์” ที่มียังปัญหาอาการบาดเจ็บ
We’re LIVE as Jürgen Klopp previews Sunday’s meeting with @ManUtd at Old Trafford 🎙️ https://t.co/XAEH2oOJpa
— Liverpool FC (@LFC) October 22, 2021
สถิติ 5 เกมหลังสุดที่พบกัน
13/05/2021 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 2-4 ลิเวอร์พูล
24/01/2021 (FAC) แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 3-2 ลิเวอร์พูล
17/01/2021 ลิเวอร์พูล 0-0 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
19/01/2020 ลิเวอร์พูล 2-0 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
20/10/2019 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1-1 ลิเวอร์พูล
• FAC = ฟุตบอล เอฟเอ คัพ
11 ผู้เล่น ที่คาดว่าจะได้ลงสนาม
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (4-2-3-1)
ดาบิด เด เคอา (GK)
แอวาน-บิสซาก้า, วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ, แฮร์รี่ แม็กไกวร์, ลุค ชอว์
เนมันยา มาติช, สกอตต์ แม็คโทมิเนย์
เมสัน กรีนวู้ด, บรูโน่ แฟร์นันด์ส, ปอล ป็อกบา
คริสเตียโน่ โรนัลโด้
ลิเวอร์พูล (4-3-3)
อลีสซง เบ็คเกอร์ (GK)
เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, โฌแอล มาติป, เฟอร์จิล ฟาน ไดค์, แอนดี้ โรเบิร์ตสัน
จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, ฟาบินโญ่, เจมส์ มิลเนอร์
โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่, ซาดิโอ มาเน่
ความเป็นไปได้ในเกมนัดนี้
อย่างไรก็ตามถือเป็นเกมบิ๊กแมตช์ประจำสัปดาห์นี้ ซึ่งชัยชนะของทัพ “ปีศาจแดง” ในศึก แชมเปี้ยนส์ลีก อาจส่งผลให้เจ้าบ้านมีกำลังใจมากขึ้น แต่ทว่าด้วยฟอร์มอันร้อนแรงของ “หงส์แดง”
ทำให้คาดว่าเกมนี้ ลิเวอร์พูล จะบุกมาเฉือนเอาชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แบบสุดมันส์ 2-1 พร้อมทั้งการันตีอันดับ 2 ของตารางคะแน พรีเมียร์ลีก ต่อไป
ขอบคุณรูปภาพจาก Manchester United, Liverpool FC
#ข่าวกีฬา #ข่าวฟุตบอลไทย #วิเคราะห์ฟุตบอล ufafeversport #Preview ก่อนเกม #พรีเมียร์ลีก #ซีซั่น 2021/22 #แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด #ลิเวอร์พูล #ศึกแดงเดือด #บิ๊กแมตช์ประจำสัปดาห์