เรอัล มาดริด ภายใต้การคุมทีมของ ซีเนดีน ซีดาน กำลังอยู่ในช่วงทดลองตัวผู้เล่นเนื่องจากไม่มีลุ้นอะไรแล้วในฤดูกาลนี้ ส่วนเรอัล โซเซียดัด ชนะมา 2 นัดรวด และไม่มีลุ้นอะไรแล้วในฤดูกาลนี้เช่นเดียวกับมาดริด
ครึ่งแรก Goal! นาทีที่ 5 เป็นความยอดเยี่ยมของ บราฮิม ดิอาซ กองหน้าดาวรุ่งชาวสเปนที่โชว์ทักษะความสามารถเฉพาะตัวเลี้ยงผ่านไป 3 คนก่อนยิงด้วยขวาบอลพุ่งเบียดเสาแรกไปอย่างสวยงาม ชุดขาวนำ 0-1 นาทีที่ 7 เป็นทางเจ้าบ้านเกือบตีเสมอจาก มิเกล เมริโน เอี้ยวด้วยยิงด้วยซ้ายบอลไปติดเซฟของ ติโบลด์ กูรตัวส์ Goal! เป็นเจ้าบ้านสามารถตีเสมอได้สำเร็จ จากจังหวะของ วิลเลี่ยม โฆเซ่ ทำชิ่งจังหวะเดี่ยวไปให้ มิเกล เมริโน่ หลุดเข้าไปยิงจ่อๆด้วยซ้ายไม่พลาด โซเซียดาดตีเสมอ 1-1
นาที 34 มาดริดเกือบขึ้นนำอีกครั้ง อิสโก รับบอลส้มหล่นมาก่อนจะตัดสินใจยิงด้วยขวาบอลไปติดเซฟ รูลี่ นายทวารเจ้าถิ่นออกมาปิดมุมได้เร็ว นาที 38 เรอัล มาดริด ต้องมาเหลือตัวผู้เล่น 10 คนจากจังหวะเฆซุส บาเยโฆ่ เหยียดมือมาบล็อกลูกยิงของ วิลเลี่ยน โฆเซ่ ผู้ตัดสินให้ใบแดงทันทีและเป็นจุดโทษของ เรอัล โซเซียดาดก่อนที่วิลเลี่ยน โฆเซ่จะยิงไปติดเซฟของกูรตัวส์ไม่ได้ประตู
ครึ่งหลัง นาที 51 อันเดร เบอร์เลนเต้ ปีกดาวรุ่งพาบอลขึ้นมาแล้วเข้าขวา ก่อนจะยิงบอลพุ่งแรงเฉียดเสาสองไปไม่ไกล
เข้าอีกจนได้ ! Goal! นาที 57 เจ้าบ้านขึ้นนำจนได้ จากจังหวะโยนบอลยาวของ รูเบ็น ปาร์โด ถึงหัวของ โจเซ็ป ซัลดัวร์ แบ็คขวาที่สอดเติมขึ้นมาได้โขกเช็ดบอลเข้าเสาสองไปอย่างสวยงาม โซเซียดัดนำ 2-1 Goal! นาที 66 โซเซียดาด หนีห่างเป็น 3-1 จากจังหวะของ มิเกล โอยาซาบัล ยิงด้วยซ้ายเต็มๆบอลไปชนเสากระดอนมาเข้าทางของ อันเดร เบอร์เลนเต้ ยิงซ้ำด้วยขวาเข้าไปง่ายๆไม่เหลือ
นาที 85 โซเซียดาดเกือบได้ประตูปิดเกมนี้ อัดนาน ยานาไซน์ ได้บอลก่อนเอี้ยวตัวปั่นด้วยซ้ายข้างถนัด บอลโค้งไปชนคานสนั่นไม่ได้ประตู
จบเกมส์เป็นทางโซเซียดาดเปิดรังอัด ราชัน ชุดขาว ที่เหลือ 10 ตัวตั้งแต่ครึ่งแรกได้แบบไม่ยากนัก 3-1 เก็บเพิ่มเป็น 50 คะแนนรั้งอันดับที่ 8 ของตารางส่วน เรอัล มาดริด ยังคงมี 68 แต้มเท่าเดิมรั้งที่ 3 ของตาราง
#laliga #football #realsociedad #realmadrid