มหากาพย์ก่อนศึกตัดสินจ้าวยุโรปใบเล็ก อาร์เซนอล VS เชลซี : บทที่ 1

สกู๊ป วาไรตี้ 28 05 2019

บทที่ 1 เส้นทางที่ “ปืนใหญ่” ผ่านในฤดูกาล 2018

อาร์เซนอล ครั้งเคยเป็นหนึ่งในทีมระดับแถวหน้าของเกาะอังกฤษมาด้วยตลอด แต่ด้วยเม็ดเงิน บวกนโยบายการทำทีมที่ยังเป็นคำถาม ทำให้ต้องดิ้นรนอย่างหนัก หากจะกลับมาเป็น 1ใน4 ทีมบนหัวตารางพรีเมียร์ลีกอีกครั้ง

ปีที่ผ่านมานับเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของทัพ “เดอะ กูนเนอร์ส” หลังตัดสินใจแยกทางกับ อาร์แซน เวนเกอร์ ผู้จัดการคู่บุญที่อยู่กับทีมมายาวนานถึง 22 ปีเต็ม

ที่ทำผลงานในลีกจบได้เพียงอันดับ 6 ทำให้หมดสิทธิ์ไปเล่นฟุตบอลรายการใหญ่อย่าง ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ต้องลดระดับลงไปร่วมแข่งขันใน ยูฟ่ายูโรปาลีก แทน งานนี้สโมสรจึงต้องหาทางกอบกู้ศักดิ์ศรีของทีมคืน โดยตั้งผู้จัดการทีมคนใหม่อย่าง อูไน เอเมรี่ ขึ้นมาแทน เพื่อหวังจะกลับคืนสู่ความยิ่งใหญ่อีกครั้ง

เอเมรี่ เริ่มต้นกับ อาร์เซน่อล ด้วยการเอาชนะ เชลซี ในการดวลลูกโทษ หลังเสมอในเวลา 1-1 ต่อด้วยการเอาชนะ ลาซิโอ 2-0 แม้ผลงานอาจจะยังดูติดๆ ขัดอยู่บ้าง แต่ก็อาจจะเป็นเพราะนักเตะยังไม่สมบูรณ์หรือยังเล่นไม่เข้าแผน 100% แต่ก็ถือว่าเป็นการเริ่มต้นที่ของที่ดีของทีม อย่างน้อยๆ แฟนก็บอลก็ได้เห็น วิธีการเล่น และแทคติกที่ เอเมรี่ เพิ่มให้กับ อาร์เซนอล ซึ่งมันแสดงให้เห็นว่า เขาต้องการทำให้ “ไอ้ปืนใหญ่” เป็นทีมลุ้นแชมป์อีกครั้ง

แม้ทีมจะไม่ได้เสริมทัพอะไรมากมายแต่การเซ็น ลูคัส ตอร์เรย์ร่า กองกลางตัวรับทีมชาติอุรุกวัย ที่ทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจในฟุตบอลโลกที่ รัสเซีย ช่วยแก้ปัญหาในแดนกลางให้สมดุลขึ้น และเพิ่มมิติในเกมรุกให้กับทีม แม้จะเป็นนักเตะที่ตัวเล็ก แต่จุดเด่นของเขาคือ การแย่งบอลจากคู่แข่ง บวกกับทักษาะความเร็ว และความแข็งแกร่ง เป็นปัจจัยที่จะทำให้ทีมอย่าง “ไอ้ปืนใหญ่” กลับมาทำผลงานได้ค่อนข้างน่าพอใจอีกครั้ง.

ผลงานในลีกเมื่อจบฤดูกาล อาร์เซนอล จบในอันดับที่ 5 ด้วยผลงานลงเล่น 38 นัด ชนะ 21 เสมอ 7 และแพ้ 10 นัด พลาดโควต้าอันดับ 4 ไปเพียง 1 แต้ม ทำให้ต้องหันมาหวังพึ่งใบบุญจากการคว้าแชมป์ยูฟ่า ยูโรปาลีก เพื่อสิทธิ์ในการไปเล่นยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก แทน แล้วก็ทำได้ดีซะด้วย ในรอบแบ่งกลุ่ม “ปืนใหญ่” เข้ารอบเป็นอันดับ 1 ไม่แพ้แม้แต่นัดเดียว ถัดมาในรอบแพ้คัดออก ที่ต้องเล่นแบบเหย้า-เยือน อาร์เซนอล ยังรักษาฟอร์มอันแข็งแกร่งเฉพาะนัดในบ้านไว้ได้ ช่วยให้ผ่านทะลุมาได้ทุกรอบ โดยพบเจอความลำบากเพียงแค่รอบ 16 ทีม ที่เจอกับ แรนส์ ทีมจากลีกเอิงฝรั่งเศส ซึ่งต้องเล่นกันชนิดพลิกนรก 4-3 เฉือนชนะมาได้.

ดังนั้น จึงเป็นที่จับตามองจากทั่วยุโรปและทั่วโลกเช่นกัน ว่าเมื่อถึงเวลาศึกตัดสิน ที่ต้องลงชิงชัยกันในสนามกลาง เมืองบากู ประเทศอาร์เซอไบจาน อาร์เซนอล ที่คงจะฝากความหวังไว้กับดาวยิงประจำทีม อย่าง ปิแอร์ เอเมริค โอบาเมยอง ซึ่งปีนี้ยิงไป 31 ประตูรวมทุกถ้วย จะช่วยล้างอาถรรพ์คำสาปการเล่นนอกบ้าน คว้าตั๋วทองคำ เพื่อกลับไปวาดลวดลายและรับทรัพย์ก้อนโตกันในถ้วยบิ๊กเอียร์ฤดูกาลหน้า ได้หรือไม่…แฟนๆคิดว่าจะเป็นไปได้มั้ย??

fever

fever

Leave a Replay