ลิเวอร์พูล แม้จะครองบอลน้อยกว่า สเปอร์ส แต่ชิงจังหวะได้เปรียบทำประตูคว้าถ้วยใหญ่ยุโรปไปครองได้สำเร็จเป็นสมัยที่ 6
เริ่มเกมได้แค่ 2 นาที ลิเวอร์พูล ได้จุดโทษ จากจังหวะที่ ซาดิโอ มาเน่ งัดบอลไปโดนแขน มูซ่า ซิสโซโก้ กรรมการเป่าให้เป็นจุดโทษ โมฮาเหม็ด ซาร่าห์ รับหน้าที่สังหารเข้าไปตุงตาข่าย 1-0

หลังจากนั้น สเปอร์ส เริ่มตั้งเกมได้เป็นฝ่ายคลองบอลได้มากกว่า และทำเกมได้ดีกว่ากอง หงส์แดง แต่ยังไม่มีจังหวะใกล้เคียงที่จะทำประตูได้ และเป็นทางฝั่งของ หงส์แดง ที่มีจังหวะส่วนกลับที่หวาดเสียวกว่า แต่หลายๆจังหวะทั้งสองทีมก็ยังเสียสมาธิ จ่ายบอลเสียกันเอง จบครึ่งแรกทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ สกอร์อยู่ที่ 1-0
เริ่มครึ่งหลังได้สิบกว่านาที นาทีที่53 ทั้งสองทีมพลัดกันมีจังหวะหวาดเสียวคนละครั้ง นาทีที่ 68 เป็นจังหวะที่ประสานงานกันของแนวรุก หงส์แดง ซาดิโอ มาเน่ ลากบอลมาจ่ายให้ โมฮาเหม็ด ซาร่า เบิ่ลจังหวะเดียวให้ เจมส์ มิเนอร์ ยิงบอลพุงเฉียดเสาออกไป
จากนั้น สเปอร์ส์ ยังครองบอลและพยามบุกใส่แนวรับ ลิเวอร์พูล นาทีที่ 79 เป็น ลูคัส มูล่า ฮีโร่จากเกมที่แล้ว มีโอกาศยิง แต่ไม่ผ่านมือ อลีสซง เบ็คเกอร์ นาทีที่ 83 ไก่เดือยทอง ได้ฟรีคิด คริสเตียน อีริคเซ่น รับหน้าที่ยิงฟรีคิกหวังไล่ตีเสมอให้ได้ บอลพุ่งไปทางเสาสอง แต่ เบ็คเกอร์ พุ่งปัดไว้ได้ ทำให้ยังไม่มีประตูเกิดขึ้น

ช่วงท้ายเกม นาทีที่ 87 เป็นลิเวอร์พูลที่ได้ประตูขึ้นำห่างเป็น 2-0 จากจังหวะที่สเปอร์สเครียบอลไม่ดี บอลมาเข้าทางของ โอริกี ซัดด้วยซ้ายเต็มข้อบอลเสียบเสาเข้าประตูไปอย่างสวยงาม ทำให้ ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกสมัยที่ 6 ไปครองได้สำเร็จ
#YNMA #UCLfinal #Liverpool #บอลออนไลน์