นิวคาสเซิ่ล ได้ ชาร์ กลับมาคุมเกมรับแล้วขณะที่ิิ เยดลิน กับ เฮย์เด้น ฟิตพอลงเล่น ส่วน ดิยาเม่ บาดเจ็บเลยต้องเป็น ซอง ยงลงแทน ฝั่ง พาเลซ ให้ทาวน์เซนด์ กลับมาเป็นตัวจริงอีกครั้ง โดยดร็อป คูยาเต้ แล้วให้ ชลุปป์ ถอยลงมายืนกองกลางแทน
เริ่มเกมได้เพียงไม่ถึง 5 นาที พาเลซ ก็ได้ลุ้นประตู จากการจ่ายบอลที่ผิดพลาดของนิวคาสเซิ่ล เวลาผ่านไป นิวคาสเซิ่ล ค่อยๆตั้งเกมขึ้นมาและส่งบอลเข้าประตูไปได้แต่พลาดการขึ้นนำ หลัง รอนดอน ตามไปซ้ำลูกที่ประตู พาเลซ ทำกระฉอกเข้าประตู สุดท้าย ไลน์แมนยกธง รอนดอน ล้ำหน้า เกมในครึ่งแรกเป็นนิวคาสเซิ่ล ที่เริ่มต้นได้ดีต่อเนื่องมีจังหวะลุ้นอยู่ตลอด เกมสวนกลับของ “สาลิกาดง” โฉบไปเฉี่ยวมาอยู่หลายหน ช่วงท้ายครึ่งแรก พาเลซ เกือบได้ประตูออกนำก่อน จากจังหวะเตะมุมที่เปิดมาถึง ทอมกินส์ สะบัดตัวยิงเข้าประตู แต่กรรมการยกธงล้ำหน้า พลาดขึ้นนำไปเช่นกัน หมดครึ่งแรกเสมอกัน 0 – 0
กลับมาฟาดแข้งกันต่อใน ครึ่งเวลาหลัง เกมยังสลับกันมีลุ้น ชนิดที่แฟนบอลนั่งกันไม่ติด เกมเดินมาจนถึงช่วงกลางของครึ่งหลัง นิวคาสเซิ่ล ต้องพบกับ ข่าวร้าย เมื่อ เลอเฉินบาดเจ็บ จากจังหวะสกัดบอล หนักถึงขั้นต้องเอาลงเปลออกจากสนามเลยและ นิวคาสเซิ่ล ส่ง ดัมเมตต์ ลงแทน ต่อมาไม่นาน พาเลซ ก็ต้องเปลี่ยน ทอมกินส์ ที่เกิดเจ็บทนไม่ไหวต้องเอาแดนน์ลงมายืนหลังแทน จนกระทั่ง นาทีที่ 81 แฟน พาเลซ ได้เฮ สนั่น เมื่อ พาเลซได้จุดโทษหลัง เยดลินทำฟาวล์ ใส่ ซาฮา ในเขตโทษ มิลิโวเยวิช มือสังหารขาประจำมารับหน้าที่แล้วยิงไม่พลาด พาเลซออกนำท้ายเกม 1-0 และก็จบเกม 90 นาที นิวคาสเซิ่ลแพ้ให้กับคริสตัล พาเลซ 1-0 ทำให้ โอกาสรอดตกชั้น ของ คริสตัล พาเลซ น่าจะ พ้นขีดอันตรายได้เกือบ 100% แล้ว
นายแว่น เทพบอลดึก