เกมเริ่มมาในครึ่งแรกทั้งสองทีมยังไม่ได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันกันเลยต่อบอลกันขึ้นมาก็เสียตรงกลางสนามเรียกได้ว่ายังไม่มีโอกาสยิงประตูหรือลุ้นจังหวะอันตรายกันทั้งคู่ ผ่านมาเกือบครึ่งทางครึ่งแรก เลสเตอร์ มีโอกาสส่องครั้งแรกของเกมเมื่อบาร์นส์ ลากบอลไปสุดเส้นหลังด้านซ้ายก่อนเปิดยัดมาเสาแรกโดน ฮาเมอร์ ปัดออกมาไม่ดีบอลไปเข้าทาง แมดดิสัน ยิงก็ติดบล็อคอีก จิ้งจอกสยาม ทำประตูขึ้นนำสำเร็จ จากจังหวะต่อเนื่องจากเตะมุมด้านขวา ฮัดเดอร์สฟิลด์ สกัดออกมาไม่ดีบอลตั้งให้ที เลอม็องส์ วิ่งเข้ามายิงด้วยขวาบอลเล่นทางผ่าน ฮาเมอร์ เข้าไปไม่พลาด 1-0 หลังจากนั้น ฮัดเดอร์สฟิลด์ ก็ได้ลุ้นบ้างเหมือนกัน แต่ยังทำอะไรเกมรับของ เลสเตอร์ ไม่ได้ จบครึ่งแรกสกอร์อยู่ที่ 1 – 0
ครึ่งหลังลงมาไม่ทันไร ฮัดเดอร์สฟิลด์ น่าได้ประตูตีเสมอเลยจากจังหวะที่ เอ็มเบนซ่า ตัวสำรองลากบอลมาทางกราบขวาก่อนครอสเข้ากลางให้ แกรนท์ พุ่งเข้าชาร์จตรงกรอบหกหลาแต่ แคสเปอร์ ยังขยับไปปัดทัน กลับกลายเป็น เลสเตอร์ ได้ประตูหนีห่าง จากลูกแปของ วาร์ดี้ ทำให้เป็นลูกที่ 103 ของเขากับ เลสเตอร์ เท่าสถิติของ แกรี่ ลินิเกอร์แล้ว ฮัดเดอร์สฟิลด์มาทวงคืนได้ จากจุดโทษ มือสังหารเป็นมอย ยิงเข้าไป 1-2!!! บุกกันไปมา ฮัดเดอร์สฟิลด์น่าได้ประตูตีเสมอแต่ก็มาถูกทิ้งห่างไปอีกครั้งจากฟรีคิกระยะ 22 หลาของแมดดิสันวิ่งเข้ามาปั่นบอลอ้อมกำแพงก่อนพุ่งตุงตาข่าย ช่วงนาทีท้าย เลสเตอร์ มาได้จุดโทษอีกเมื่อ วาร์ดี้ ถูกเหนี่ยวล้มลงไปแล้วก็เป็น วาร์ดี้ ที่ลุกขึ้นมายิงไม่เหลือ เป็นประตูที่ 104 ของเขากับสโมสรขึ้นทำเนียบอันดับ จบเกม เลสเตอร์ ซิตี้ ภายใต้การนำของ เบรนแดน ร็อดเจอร์สฟอร์มร้อนไม่เลิกชนะรวด 4 เกมติดต่อกันขยับมาอยู่อันดับ 7 บนตารางคะแนนยังได้ลุ้นไปเล่นฟุตบอลยุโรป
นายแว่น เทพบอลดึก
