UEFA Nations League : มากกว่าการกระชับมิตร

ในปี 2018 UEFA หรือ สหพันธ์ฟุตบอลยุโรป เปลี่ยนรูปแบบการแข่งขันกระชับมิตรให้มีมูลค่าและน่าติดตามมากยิ่งขึ้น UEFA Nations League จะเป็นการแข่งขันกระชับมิตรรูปแบบใหม่ของ 55 ประเทศสมาชิกของ UEFA โดยการแข่งขันจะใช้รูปแบบของลีคฟุตบอลอาชีพ ซึ่งจะมีการเลื่อนชั้น-ตกชั้น และแน่นอนมีรางวัลที่ล้ำค่าสำหรับเหล่าทีมผู้ชนะ

การแข่งขัน UEFA Nations League จะลงเตะตามปฏิทินของ FIFA Day โดยจะแบ่ง 55 ประเทศ เป็น 4 ลีคตามอันดับ FIFA Ranking และแต่ละลีคจะแบ่งเป็น 4 กลุ่มย่อย โดย League A: อันดับ 1-12, League B: อันดับ 13-24, League C: อันดับ 25-39, League D: อันดับ 40-55 ซึ่งอันดับ 1 ของแต่ละลีคจะมีสิทธิ์เข้ารอบสุดท้าย EURO 2020

การเปลี่ยนแปลงมิติใหม่ของการแข่งขันฟุตบอลครั้งนี้ส่งผลประโยชน์ให้ทุกๆทีม เพราะการเล่นแบบเหย้า-เยือนคล้ายลีคฟุตบอลอาชีพ จะส่งผลให้แต่ละประเทศมีรายรับจาก Sport Tourism และ Gate Revenue เพิ่มขึ้น อีกทั้งเมื่อมันไม่ใช่การเตะกระชับมิตรธรรมดา ทว่ามีสิทธิ์ในการลุ้นเข้ารอบสุดท้ายของการแข่งขันฟุตบอลแห่งทวีปยุโรป จะทำให้มูลค่าของการแข่งขันแต่ละนัดเพิ่มขึ้นทันทีและทำให้แต่ละประเทศมีรายรับเพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มขึ้นของผู้ชม, การเข้ามาของ Sponsorship และ การกระจายรายได้ของ Broadcasting Rights นอกจากนี้จะทำให้แต่ละประเทศพัฒนาวงการฟุตบอลมากขึ้น เพราะไม่ใช่แค่ทีมใหญ่ๆที่จะสามารถเข้ารอบสุดท้าย EURO ได้อย่างเดียว แต่อาจเป็นทีมเล็กๆเพราะมี 4 ที่นี่งของแชมป์แต่ละลีค ซึ่งแบ่งตามอันดับของ FIFA Ranking

ในการแข่งขันรอบต่อไปจะเป็นการหาแชมป์ของแต่ละกลุ่ม และหาแชมป์แรกของ UEFA Nations League ซึ่งจะเป็นแชมป์ของ League A ผลการประกบคู่ในวันที่ 5 มิถุนายน 2562 Portugal – Switzerland และในวันถัดมา Nethelands – England โดย UEFA จิ้ม Porto และ Guimaraes 2 เมืองในประเทศ Portugal เป็นสังเวียนรอบ Semi-Final และรอบชิงชนะเลิศ ใครจะได้ครองแชมป์ทีมแรกในประวัติศาสตร์เราจะได้รู้กันในวันที่ 9 มิถุนายนนี้

สาระรอบขอบสนาม By น้านุ & น้าภาค

ufafeversport

ufafeversport

Leave a Replay