คืนวันเสาร์ที่ 21 ธันวาคม 2562 แฟนๆ “หงส์แดง” มีนัดเชียร์ทีมรักให้คว้าแชมป์ในรายการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก 2019 ให้ได้ ซึ่งนัดนี้เป็นนัดชิงชนะเลิศแล้ว ต้องพบกับ ยอดทีมจากบราซิล ที่เพิ่งจะคว้าแชมป์โคปา ลิเบอตาดอเรส อย่าง “ฟลาแมงโก้” ส่วน “ลิเวอร์พูล” ก็คว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีกเมื่อฤดูกาลล่าสุดมาเช่นเดียว โดยจะเริ่มเตะเวลา 00.30 ตามเวลาประเทศไทย ณ สนามคาลิฟา อินเตอร์เนชั่นแนล สเตเดียม ณ กรุงโดฮา ประเทศกาตาร์
ในครึ่งแรกผ่านไปเพียง 5 นาที “หงส์แดง” ได้ทักทายยอดทีมจากบราซิลก่อน เมื่อ โมฮัมเหม็ด ซาลาห์” ได้บอลจากเขตโทษฝั่งขวา ก่อนที่จะจ่ายบอลย้อนมาให้ “นาบี เกอิตา”ซัดเต็มข้อ แต่ทว่าบอลเหินข้ามคานออกไป
ต่อมาเพียงนาทีเดียว “หงส์แดง” ก็ได้ลุ้นอีกทีจาก “อาร์โนลด์” แบ็คขวาตัวรุก ยิงไกลจากนอกกรอบฝั่งขวา แต่บอลพุงเฉี่ยวเสาออกไปนิดเดียวเท่านั้น ทางฝั่ง “ฟลาแมงโก้” ได้ลุ้นประตูในนาทีที่ 24 เมื่อ “บรูโน เอ็นริเก” ได้หลุดไปยิงในเขตโทษ แต่ไม่ถนัด บอลเลยเข้ามือ “อลิซง” รับได้ง่ายๆ จากนั้นอีก 2 นาที “พาโบล มารี” เปิดบอลยาวขึ้นมาจากทางซ้าย ให้ “เอ็นริเก” คนเดิม ซัดด้วยซ้าย บอลพุ่งเข้าข้างตาข่ายไป ในครึ่งแรกจึงยังทำอะไรกันไม่ได้ ยังเสมอกันไป 0-0
ครึ่งหลังในนาทีที่ 49 “หงส์แดง” ได้ลุ้นอีกทีจากจังหวะลูกเปิดของ “อาร์โนลด์” เปิดฝั่งขวาเข้ากลางให้ “ซาลาห์” ยิงเน้นๆ แต่หลุดเสาออกไปนิดเดียว
เกมผ่านมา 53 นาที โอกาสของ “ฟลาแมงโก้”อีกทีเป็น “กาเบรียล บาร์โบซา” ปั่นด้วยซ้ายนอกกรอบ บอลเหินข้ามคาน จากนั้น บาร์โบซา คนเดิมก็ซัดด้วยขวาในเขตโทษ บอลจะเสียบเสาไกลแล้ว แต่ “อลิซง”ปัดออกไปได้ ในนาทีเดียวกัน
นาทีที่ 69 “ฟลาแมงโก้” น่าจะได้จังหวะขึ้นนำแล้วจาก จังหวะนี้ “เอ็นริเก” เปิดบอลให้ “บาร์โบซา” ตีลังกายิง บอลจะเสียบมุมอยู่แล้ว แต่ “อลิซง” คนเดิมก็ช่วยลิเวอร์ไม่เสียประตู เซฟลูกนี้เอาไว้ได้ ในนาทีที่ 86 เป็นโอกาสของ “หงส์แดง” อีกครั้ง เมื่อ “ซาลาห์” จ่ายบอลให้ “เฮนเดอรสัน” ยิงไกลเต็มข้อ บอลจะเสียบสามเหลี่ยมอยู่แล้ว แต่ “ดิเอโก อัลเวส” ก็ยังปัดลูกนี้ออกไปได้
เกมเข้าสู่ช่วงทดเจ็บ “ลิเวอร์พูล”เกือบจะได้จุดโทษ เมื่อ “มาเน่” โดน “ราฟินญา”สกัดร่วงในกรอบเขตโทษ ตอนแรกให้เป็นจุดโทษ แต่มาเช็ค VAR แล้วเปลี่ยนคำตัดสินไม่ให้จุดโทษ จบเกม 90 นาที ต้องต่อเวลาพิเศษ
ช่วงต่อเวลาพิเศษนาทีที่ 99 “เฮนเดอร์สัน” จ่ายบอลยาวทะลุขึ้นมาให้ “มาเน่” พาบอลเข้าเขตโทษฝั่งขวา ก่อนจ่ายมาทางซ้ายให้ “ฟรีมิโน่” หาจังหวะซัดด้วยขวาเข้าไปตุงตาข่าย เป็นประตูชัยให้ลิเวอร์ผงาดคว้าแชมป์นี้ไปได้ ซึ่งนี่ถือว่าเป็นการคว้าแชมป์สโมสรโลกครั้งแรกของ “ลิเวอร์พูล” ด้วย
ขอขอบคุณรูปภาพจาก:FB. Liverpool Fc #ข่าวกีฬา #ข่าวฟุตบอลไทย ufafeversport
