คู่สุดท้ายประจำคืนวันเสาร์ที่ 22 ก.พ.ที่ผ่านมา ในการแข่งขันฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดที่ 27 เป็นการพบกันระหว่างที่อันดับที่ 3 ของตารางอย่าง “เลสเตอร์ ซิตี้” เปิดสนาม คิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม ต้อนรับการมาเยือนที่อันดับที่ 2 ของตารางอย่าง “แมนเชสเตอร์ ซิตี้” โดยทั้งสองทีมพยายามที่จะเก็บสามแต้มให้ได้เพื่อที่จะลดพื้นที่ช่องว่างทั้งอันดับ 3 กับ 2 และลุ้นพื้นที่ในอันดับ 1
โดยก่อนเกมทางด้านเจ้าบ้าน “จิ้งจอกสยาม” เลสเตอร์ 5 นัดหลังสุด ถือว่าไม่ค่อยดีนัก โดยสามารถเก็บชัยชนะได้เพียง 1 เกมเท่านั้น ซึ่งนัดล่าสุดก็พึ่งบุกไปเสมอทีมอย่าง “วูล์ฟแฮมป์ตัน” มา 0-0 ทำให้เกมในนัดนี้ กุนซืออย่าง “เบรนแดน ร็อดเจอร์ส” จัดทัพโดยใช้แนวรุก 2 ตัว อย่าง “เคเลชี่ อิเฮียนาโช่” และ “เจมี่ วาร์ดี้” ที่ตั้งแต่ขึ้นต้นปี 2020 ยังไม่สามารถยิงประตูได้เลยแม้แต่เม็ดเดียว พร้อมมีตัวสร้างสรรค์เกมอย่าง “เจมส์ แมดดิสัน” คอยจ่ายบอลแถวหลัง
ส่วนทางด้าน “เรือใบสีฟ้า” ภายใต้การคุมทีมของ “เป๊ป กวาร์ดิโอล่า” ก็ต้องการ 3 แต้มนี้เป็นอย่างมากเพื่อที่จะบีบพื้นที่ระยะห่างจาก “ลิเวอร์พูล” ให้มากที่สุด โดยในนัดนี้ก็ยังใช้ทีมชุดใหญ่เช่นเคย นำทัพโดย “เซร์คิโอ อเกวโร่” กับ “ริยาด มาห์เรซ” ที่กลับมาลงตัวจริงอีกครั้ง และยังมี “แบร์นาร์โด้ ซิลวา” กับ “เควิน เดอ บรอยน์” คอยสร้างสรรค์เกมรุก
โดยในเกมนัดนี้ทั้งสองทีมผลัดกันรุก ผลัดกันรับกันอย่างสนุก แม้ในครึ่งเวลาแรกทั้ง 2 ทีมจะมีโอกาสได้ประตูอยู่บ้างแต่ก็ไม่สามารถกดให้เป็นประตูได้ จนมาในครึ่งเวลาหลังทีมผู้มาเยือนก็ได้โอกาสขึ้นนำในนาทีที่ 60 จากจังหวะ “ลัง อิลคาย กุนโดกัน” ซัดบอลนอกกรอบเขตโทษไปโดนแขน “เดนนิส ปราต” ทำให้ผู้ตัดสินเช็กจากห้องควบคุม VAR ก่อนจะชี้เป็นลูกจุดโทษแก่ทีมเยือน แต่ทว่า “เซร์คิโอ อเกวโร่” ดันยิงไปกลางประตู และไปติดขาของ “แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล” เซฟไว้ได้ ทำให้ทีมเยือน “เรือใบสีฟ้า” ยังไม่ได้ประตูขึ้นนำ
แต่สุดท้าย “แมนซิตี้” ก็มาได้ประตูชัยจนได้ จากจังหวะ “ริยาด มาห์เรซ” เลี้ยงจี้แนวรับของ “เลสเตอร์” มาบริเวณหน้ากรอบเขตโทษ ก่อนจะจ่ายย้อนไปทางด้านขวาให้กับ “กาเบรียล เชซุส” ตัวสำรองที่ลงมาเล่นแทน “เซร์คิโอ อเกวโร่” ในนาทีที่ 77 หลุดกับดักล้ำหน้า แล้วซัดด้วยขวาบอลสวนตัว “แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล” และเบียดเสาแรกเข้าไป “แมนซิตี้” ขึ้นนำ 1-0 ในนาทีที่ 80
ก่อนจะจบเกมลงไปด้วยสกอร์นี้ ทำให้ “แมนเชสเตอร์ ซิตี้” บุดมาเฉือนชนะ “เลสเตอร์ ซิตี้” ถึงถิ่นไป 1-0 ส่งผลให้ “จิ้งจอกสยาม” เลสเตอร์ ซิตี้3 นัดหลังสุดยังไม่ชนะใคร เก็บได้เพียง 2 แต้ม ส่วนทางด้าน “แมนซิตี้” เก็บชัยชนะได้เป็นนัดที่ 2 ติดต่อกันในลีก แล้วยังทำแต้มทิ้งห่างอันดับ 3 อย่าง “เลสเตอร์” ไปเป็น 7 แต้ม พร้อมบีบคะแนนจาก 22 แต้ม ให้เหลือ 19 แต้ม ก่อนจ่าฝูงอย่าง “ลิเวอร์พูล” จะลงแข่งในเกม มันเดย์ไนท์ วันที่ 24 ก.พ. 63 รวมถึงทีมของ “เป๊ป กวาร์ดิโอล่า” จะต้องลงทำการแข่งขัน ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบ 16 ทีม นัดแรก โดยจะต้องบุกไปเยือนทีมอย่าง “เรอัล มาดริด” ในวันพุธที่จะถึงนี้อีกด้วย
ขอบคุณรูปภาพจาก Premier League
#ข่าวกีฬา #ข่าวฟุตบอลไทย #วิเคราะห์ฟุตบอล
