โดนแซงครึ่งหลัง! “บุรีรัมย์” นำก่อนแต่แพ้ “ราชบุรี” 4-3 ทำให้เก็บชัยชนะ 3 เกมติด

https://ufafeversport.com/

เกมเมื่อช่วงเวลาประมาณ 19.00 น. ของวันนี้ มีการแข่งขันฟุตบอล โตโยต้า ไทยพรีเมียร์ลีก นัดกลางสัปดาห์ เกมที่ 3 ของลีก ซึ่งมีคู่ที่หน้าจับตามองคือคู่ของ “ราชันมังกร” ราชบุรี มิตรผล เอฟซี เปิดบ้าน มิตรผล สเตเดี้ยม ต้อนรับการมาเยือนของ “ปราสาทสายฟ้า” บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด รองเเชมป์เก่าเมื่อฤดูกาลที่แล้ว โดยทั้งคู่เจอกันในบ้านของ “ราชบุรี” ทางด้าน “บุรีรัมย์” ไม่เคยมาแพ้ที่นี่แม้แต่หนเดียว

https://ufafeversport.com/

ก่อนเกมทางด้าน “ราชบุรี มิตรผล” ได้ออกสตาร์ทในเกมลีก ฤดูกาลนี้ ได้อย่างยอดเยี่ยม โดยแข่งขันไป 2 เกม สามารถเก็บชัยได้ถึง 2 นัด ทำให้มี 6 แต้ม เท่ากับ “การท่าเรือ” และ “แบงค็อก” แต่มีลูกได้เสียที่น้อยกว่าเลยทำให้อยู่อันดับ 3 ของตาราง ส่วนทางด้านทีมผู้มาเยือนอย่าง “บุรีรัมย์” ที่ออกสตาร์ทไม่ค่อยดีนัก โดยแพ้ในเกมแรก แต่กลับมาชนะได้ในนัดล่าสุดกับ “ชลบุรี เอฟซี” ในบ้านถึง 4-0 ทำให้เล่นไป 2 นัด มีเเต้มเพียง 3 แต้ม รั้งอยู่อันดับที่ 6 ของตาราง

ซึ่งเกมในครึ่งเวลาแรกเป็นทีมเยือนได้ประตูออกนำไปก่อนถึง 2 ลูก โดยประตูแรก มาจากจังหวะเปิดลูกเตะมุมทางฝั่งขวาของ “รัตนากร ใหม่คามิ” เปิดบอลมาทางเสาไกล ก่อนจะเป็น “ริคาร์โด บูเอโน” ขึ้นโขกแบบเต็มแรง ทำให้บอลพุ่งผ่านมือของ “อุกฤษณ์ วงศ์มีมา” ผู้รักษาประตูของทีมเจ้าบ้าน ชนิดที่เบียดเสาเข้าไปอย่างเฉียบคม ทำให้ “ปราสาทสายฟ้า” ออกนำไปก่อน 1-0 ในนาทีที่ 32

และลูกที่ 2 มาได้ในนาทีที่ 42 จากการเล่นลูกคอนเนอร์อีกครั้ง แต่หนนี้มาทางฝั่งซ้าย โดยเป็นทางด้าน “ศศลักษณ์ ไหประโคน” เปิดบอลเข้ามาตรงเสาแรกด้วยเท้าซ้าย ก่อนจะเป็น “อันเดรส ตูเญซ” ที่วิ่งสลัดตัวประกบอย่าง “ปวีร์ ตัณฑะเตมีย์” มาได้ แล้วขึ้นเทกตัวโหม่งสบัดไปทางเสาไกล ทำให้บอลพุ่งเสียบสามเหลี่ยมเข้าประตูไปอย่างสวยงาม พร้อมกับจบครึ่งเวลาแรกด้วยสกอร์นี้

เริ่มต้นครึ่งหลัง ทางเจ้าบ้าน “ราชันมังกร” ก็มาได้ประตูตีตื้น จากจังหวะ “สตีเว่น ล็องจิล” เปิดบอลจากทางฝั่งขวาเข้ามาในกรอบเขตโทษ ก่อนบอลจะลอยมาเข้าทาง “ฮาเวียร์ ปาตินโญ” และทำชิ่งต่อไปให้กับ “ยานนิค โบลี” ยิงด้วยขวาสวนตัว ผู้รักษาประตูของทีมเยือนอย่าง “ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน” เข้าประตูไป ทำให้เจ้าบ้าน “ราชบุรี มิตรผล” ตามตาติดๆที่ 1-2 ในนาทีที่ 59

https://ufafeversport.com/

และเพียงไม่ถึง 5 นาทีเท่านั้น เจ้าบ้านก็มาตามตีเสมอได้สำเร็จ จากการทำชิ่งของ “ปาตินโญ” ให้บอลมาทางขวากับ “สตีเว่น ล็องจิล” ก่อนเจ้าตัวจะเปิดบอลเรียดเข้ามาในเขตโทษ และเป็นทางด้าน “ลอสเซอมี่ การาบูเอ้” วิ่งเข้ามาซัดด้วยขวาเข้าไปแบบเน้นๆ ทำให้ “ราชามังกร” ตีเสมอเป็น 2-2 ในนาทีที่ 63 และเป็นแอสซิสต์ที่ 2 ของ “ล็องจิล” ในเกมนี้

เหมือนโมเมนตัมจะเทมาทางฝั่งเจ้าบ้าน ทำให้แฟนเจ้าถิ่น ได้เฮอีกครั้ง จากการตัดบอลได้ที่กลางสนาม ก่อนบอลจะมาถึงที่ “ฟิลิป โรลเลอร์” บริเวณหน้ากรอบเขตโทษ และพยายามที่จะเลี้ยงบอลเข้าไปในเขตโทษ แล้วยิงหัดข้อด้วยเท้าซ้ายบอลพุ่งเสียบเสาเข้าประตูไปแบบคมกริบ แม้ “ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน” จะพยายามล้มตัวเซฟแล้วแต่ก็ไม่ทัน ทำให้สถานการณ์ตอนนี้เป็นทางด้าน “ราชบุรี มิตรผล” พลิกแซงขึ้นนำเป็น 3-2 ในนาทีที่ 76

ทำให้ทีมผู้มาเยือนพยายามที่จะโหมบุกใส่เจ้าบ้าน เพื่อหวังที่จะได้ประตูตีเสมอ เป็น 3-3 จนในนาทีที่ 88 ทีม “ปราสาทสายฟ้า” ก็มาตีเสมอได้สำเร็จ จากจังหวะที่ “สุภโชค สารชาติ” ได้บอลทางฝั่งขวาของกรอบเขตโทษ พยายามที่จะเปิดบอลยัดเข้ามาตรงกลาง แต่บอลดันไปแฉลบ “เกียรติศักดิ์ เจียมอุดม” ที่เข้าสกัด เลยทำให้บอลลอยโด่งมาที่เสาสอง และดูเหมือนจะไม่มีอะไร แต่ผู้รักษาประตูของทีมเยือนอย่าง “อุกฤษณ์ วงศ์มีมา” พยายามที่จะปัดบอล เพื่อให้ออกหลัง แต่ข้ามหัวเสียบใต้คานเข้าประตูไป เลยเป็นการทำเข้าประตูตัวเองของ “เกียรติศักดิ์ เจียมอุดม”

https://ufafeversport.com/

แต่แล้วแฟนบอลของเจ้าบ้าน ก็มาได้เฮแบบสุดเสียง จากการสวนกลับมาทางฝั่งขวาของทีมเจ้าบ้าน “ราชันมังกร” ก่อนจะเป็น “สตีเว่น ล็องจิล” ได้จังหวะเปิดบอลเรียดเข้ามาตรงกลางกรอบเขตโทษให้กับ “ฮาเวียร์ ปาตินโญ” ตัวสำรองที่ถูกเปลี่ยนลงมาตั้งแต่ต้นครึ่งหลัง จับบอลด้วยขวาก่อนหนซัดด้วยซ้ายเข้าไป ทำให้ “ราชบุรี มิตรผล” ได้ประตูออกนำอีกครั้งเป็น 4-3 ในนาทีที่ 90+3

ก่อนจะจบเกม “ราชบุรี มิตรผล เอฟซี” เปิดบ้านแซงชนะ “บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด” ไปอย่างสุดมันส์ 4 ประตูต่อ 3 ทำให้ “ราชันมังกร” เเข่ง 3 นัด มี 9 แต้มเท่ากับ “ทรู แบงค็อค” พร้อมกับเก็บชัยชนะ 3 นัดติดต่อกันในฤดูกาลนี้ ส่วนทางด้านทีมผู้มาเยือนอย่าง “ปราสาทสายฟ้า” บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่แพ้ให้กับ “ราชบุรี มิตรผล” ในบ้านครั้งแรก พร้อมกับเเพ้เป็นเกมที่ 2 ในลีกฤดูกาลนี้ ทำให้แข่งไป 3 นัด มีเพียง 3 แต้ม ตกลงมาอยู่อันดับที่ 9 ของตาราง

ขอบคุณรูปภาพจาก Buriram United

#ข่าวกีฬา #ข่าวฟุตบอลไทย   #วิเคราะห์ฟุตบอล 

fever

fever

Leave a Replay