เกมฟุตบอลนั้นไม่สามารถเดาทางออกได้ แน่นอนว่าสถิติไร้พ่ายของ “ลิเวอร์พูล” ถูกหยุดไว้โดย “อิสไมลา ซาร์” และ “ทรอย ดีนีย์” จาก “วัตฟอร์ด” ที่ทำเอาทั้งโลกต้องช็อค แต่ทว่าก่อนหน้านั้น “หงส์แดง” ก็บุกไปพ่าย “แอตเลติโก มาดริด” ในศึกยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก รอบ 16 ทีม นัดแรก โดยมีหลากหลายประเด็นในเกมนี้เลยที่ถูกพูดถึงมากมาย อีกทั้งในการแข่งขันแมตซ์ล่าสุดเป็นบิ้กเกมที่ต้องบุกไปเยือน “เชลซี” ในฟุตบอลรายการ FA คัพ ก็ไปพ่ายมาแบบไม่มีทรง 2-0 แถมยังตกรอบรายการนี้ไปด้วย ซึ่ง 3 นัดนี้ มีประเด็นสำคัญมากมายที่ถูกพูดถึงดังนี้
เกมรุกจบไม่ได้ บุกพ่าย “ตราหมี” ศึก ยูฟ่าฯ 1-0 “เฮนโด้” เจ็บเป็นของแถม
โอกาศยิงทั้งหมด 8 ครั้งของ “ลิเวอร์พูล” นั้น ไม่เข้ากรอบเลยสักครั้ง ซึ่งนั่นแสดงให้เห็นว่าเกมรุกของพวกเขามีปัญหาแน่นอน การเสียประตูเร็วของ “หงส์แดง” ก็ทำให้พวกเขาต้องการประตูคืน แต่การครองบอลที่มีเปอร์เซ็นต์เหนือกว่าถึง 73% รวมทั้งการส่งบอลที่มากกว่าถึง 726 ครั้ง ก็ไม่สามารถเจาะแนวรับของ “ตราหมี” ได้ รวมไปถึงในเกมนี้พวกเขาได้สังเวย “เฮนเดอร์สัน” กับตันทีมตัวเก่ง ที่ได้รับบาดเจ็บในเกมนี้ ซึ่งก็พบข่าวร้ายว่าค่อนข้างหนัก และจะไม่สามารถลงสนามได้ในเกมต่อไป
ขาด “เฮนโด้” ขาดใจ บุกพ่าย วัดฟอร์ต 3-0 หยุดสถิติไร้พ่าย โดย “ซาร์ และ ทรอย ดีนีย์”

“หงส์แดง” เอาชนะอีก 4 นัด ก็จะเป็นแชมป์ไปทันที แต่ทว่าในเกมนี้ดูเหมือนจะผ่านสบาย แต่ทว่า ทีมหนีตกชั้นอย่าง “วัตฟอร์ด” ก็พากันไล่ถล่ม “ลิเวอร์พูล” ยับเยินถึง 3-0 แบบโลกตะลึง ในเกมนี้ลิเวอร์พูล ขาดเกมแดนกลาง อีกทั้งความเด็ดขาดในการทำประตูของแนวรุก ทำให้ไม่สามารถยิงประตูคืนได้เลย อีกทั้งมีโอกาศยิงเพียง 7 ครั้ง เข้ากรอบแค่ครั้งเดียว ส่วนทางทีมเจ้าบ้าน มีโอกาศมากกว่า 1 เท่า ก็คือ 14 ครั้ง แถมยังเข้ากรอบ 5 ครั้ง เป็นประตู 3 โดย “ซาร์ และ ทรอย ดีนีย์” เป็นผู้ทำประตู
ตกรอบ เอฟเอ คัพ ถูกเขียโดย “เชลซี” บุกพ่าย ณ แสตมฟอร์ด บริดจ์ 2-0

เกมนี้ “คลอปป์” เลือกที่จะดรอปผู้เล่นหลักหลายคน เพื่อพักเก็บแรงเอาไว้เกมหน้า ซึ่งส่งผู้เล่นสำรองลงหลายคน หนึ่งในนั้นคือ “มินามิโนะ” ที่เกมนี้เล่นได้ดี แต่ทว่า “คลอปป์” ก็ออกมากล่าวว่ามีผู้เล่นไม่ได้ส่งบอลให้กับเขาในจังหวะสำคัญ ซึ่งแน่นอนว่าเกมรุกของ “ลิเวอร์พูล” มีปัญหา ส่วนเกมแดนกลางที่ใช้ “ฟานบินโญ่” เป็นหลัก ก็ไม่สามารถที่จะตั้งเกมได้เลย ฟอร์มการเล่นของแข้งรายนี้ค่อนข้างที่จะออกทะเลไปแล้ว ประเด็นสำคัญอีกหนึ่งก็คือ ความมั่นใจของ “อาเดรียน” ที่หายไปเพราะว่าไม่ได้คืนสู่สนามนานมาก ผลปรากฎว่าในเกมนี้ “เชลซี” ดูดีกว่า บดเอาชนะ และ เข้ารอบ 8 ทีมไปได้ในที่สุด
สำหรับการสะดุดพ่าย 3 นัดนอกบ้านของ “ลิเวอร์พูล” นั้น เป็นการสร้างสถิติใหม่ เป็นครั้งแรกของทีมในรอบ 6 ปี ซึ่งเคยแพ้ 3 นัดติดกันตั้งแต่ปี 2014 เป็นช่วงที่ “แบรนเดน ร็อดเจอร์” คุมทัพอยูในขณะนั้น สำหรับ “เจอร์เก้น คลอปป์” นั้น เรื่องนี้คือสัญญาณที่ไม่ดีเอามากๆ สำหรับ “หงส์แดง” ที่ต้องโฟกัสเกมรุก แล้ว กลับมาเก็บชัยชนะให้ได้เพื่อคืนฟอร์มให้กลับมาเป็นทีมสุดแกร่ง เช่นเดิม และนี่คือประเด็นของทั้ง 3 นัด ที่ต้องถูกพูดถึง
Credit Pic:ฟุตบอล , ไทยรัฐออนไลน์ #ข่าวกีฬา #ข่าวฟุตบอลไทย #วิเคราะห์ฟุตบอล