สะพานทองนำ31แต้มแต่พ่ายค่าถิ่น

วอร์ริเออร์ส นำทัพโดย เคอร์รี่ ทอมป์สัน ดูแรนท์ กรีนและคัสซินส์ ด้าน คลิปเปอร์สปีนี้ไม่มีสตาร์ดังๆ แต่ทีมเข้ายันรอบเพลย์ออฟได้ ถือว่าม้ามืดมากๆ นำทัพโดย กัลรินาลี่ วิลเลี่ยมและแฮร์เรลล์

เริ่มเกมควอเตอร์1 เล่นไปเพียง4นาที เดมาคัส คาซินส์ เซ็นเตอร์ร่างยักษ์ของวอร์ริเออร์ส ดันมาเจ็บจากจังหวะที่วิ่งไปเก็บบอล จึงต้องออกจากสนามไป แต่เหมือนไม่มีผลอะไรในควอเตอร์แรก วอริเออร์สทำได้ดีกว่า จากการทำแต้มของดูแรนท์และเคอร์รี่ วอร์ริเออร์สนำ 33-25

มาในควอเตอร์2 ยังคงเป็นวอร์ริเออร์สที่เล่นได้ดีกว่า ทำแต้มถล่มทลายถึง 40 แต้มในควอเตอร์เดียว มีช่วงนึงนำห่างถึง 31แต้ม ทางด้านคลิปเปอร์สพยายามทำแต้มสู้จากวิลเลี่ยมและแฮร์เรลล์ จบควอเตอร์2 วอร์ริเออร์สนำห่างถึง 23 แต้ม 73-50

เริ่มต้นควอเตอร์3 เกมรับของวอร์ริเออร์สเริ่มไม่ดี เจอการแก้เกมของคลิปเปอร์ส ทำไป 44 แต้มในควอเตอร์เดียว โดยลูวิลเลี่ยมทำไป 17 แต้มในควอเตอร์นี้ ทำให้จบควอเตอร์3 คลิปเปอร์สตามเหลือ 14 แต้ม 108-94

มาถึงควอเตอร์สุดท้าย คลิปเปอร์สได้รันชุดใหญ่มา1ชุด 11-0 จากการที่โดนคู่หูสำรองวิลเลี่ยมและแฮร์เรลล์ทำคะแนนอย่างต่อเนื่อง และผู้เล่นของวอร์ริเออร์สเสียฟาวล์บ่อยและ TurnOver ไปถึง8ครั้ง เคอร์รี่และดูแรนท์ก็เริ่มบอดชู๊ตไม่ค่อยลง

จนวิลเลี่ยมมาชู๊ตตีเสมอ 128-128 ในช่วงนาทีเศษ แต่เคอร์รี่ก็มาชู๊ต 3 แต้มขึ้นนำ 131-128 หลังจากนั้นวิลเลี่ยมชู๊ตลงอีกไล่มาเหลือ1แต้ม แล้วท้ายสุดมาได้ซาเม็ตชู๊ต3แต้มลงไป จบเกม คลิปเปอร์สบุกมาชนะถึงโอราเคิ่ลอารีน่าไป 135-131

วอร์ริเออร์ส ได้แต้มจากเคอร์รี่ 29 แต้ม และดูแรนท์ 21 แต้ม

ส่วนคลิปเปอร์สได้วิลเลี่ยม 36 แตัม 11 แอสซิสต์ ยิงลง 59% และแฮร์เรลล์ เล่นวงในก้าวข้ามได้ 25 แต้ม 10 รีบาวด์ ตีเสมอซีรีย์ 1-1 เกมสำเร็จ

อารี บาบัง

fever

fever

Leave a Replay