เกมนัดล้างตาเกมนี้แมนเชสเตอร์ ซิตี้ต้องการเอาชนะเพื่อแก้แค้นแถมผงาดเป็นจ่าฝูงอีกครั้ง โดยแนวรุกอันตรายอย่างเซร์คิโอ อเกวโร่, ราฮีม สเตอร์ลิ่งและแบร์นาร์โด้ ซิลวาคอยล่าตาข่ายกันพร้อมหน้า
ด้านท็อตแน่ม ฮอทสเปอร์สมีปัญหาที่ตำแหน่งประตูเพราะอูโก้ ญอริสบาดเจ็บกล้ามเนื้อต้องใส่เปาโล กาซซานิก้าลงมาเฝ้าเสาแทน แดนหน้าตัวแสบคู่เดิมลงประจำการทั้ง ซน ฮึง-มินและลูคัส มูร่า ซึ่งเมาริซิโอ ปอเช็ตติโน่เปลี่ยนถึง 5 ตำแหน่งจากเกมก่อนหน้านี้
ครึ่งแรก
เปิดเกมมาไม่ทันไร ไก่เดือยทองได้ลุ้นก่อนเลย เมื่อ อีริคเซ่น ไหลบอลต่อให้ ซน กระชากเข้าหาประตู ก่อนอัดมุมแคบในกรอบเขตโทษด้านซ้าย แต่โดน เอแดร์ซอน ปัดทิ้งไปก่อน
นาทีที่5 กลับตาลปัตรเลย เพราะเป็นเรือใบสีฟ้าได้ประตูขึ้นนำไปก่อน จากจังหวะที่ แบร์นาร์โด้ โยนบอลมาให้ อเกวโร่ ทางเสาไกลที่โหม่งย้อนกลับมาถึง โฟเด้น พุ่งโขกคนเดียวในกรอบหกหลาไม่เหลือ 1-0!!!
นาทีที่14 สเปอร์สเกือบได้ประตูตีเสมอจากการทำชิ่งสวยของ ฟอยธ์ ไหลต่อให้ อีริคเซ่น กระชากเข้าไปในกรอบเขตโทษด้านขวาแล้วยิงไปโดนเอแดร์ซอนที่พุ่งออกมาบล็อคออกหลังไป
นาทีที่23 เกมแลกกันสนุกเลยกลับมาเป็นซิตี้ได้โอกาสบุกครองบอล แบร์นาร์โด้วันนี้ขึ้นเกมได้โดดเด่นจริงๆทางฝั่งขวา เรือใบสีฟ้าพับสนามบุกอย่างหนักแต่จนแล้วจนรอดก็ยังไม่ได้ประตูที่สอง
นาทีที่37 ข่าวร้ายมาเยือนเจ้าถิ่น เมื่อ เดอ บรอยน์ มีอาการเจ็บข้อเท้าซ้ายเล่นต่อไม่ไหวทำให้ต้องเปลี่ยนเอา แฟร์นานดินโญ่ ลงสนามมาแทน
นาทีที่44 โอกาสทองอีกครั้งของสเปอร์สพลาดไปอย่างน่าเสียดาย ซน คนเดิมหลุดมาจากกลางสนามก่อนลากจี้เข้ากรอบเขตโทษไปยิง แต่สุดท้ายติดเอแดร์ซอนอีกรอบ
ครึ่งหลัง
ลงมาซัดกันใหม่อีกรอบ ซิตี้เกือบได้ประตูหนีห่าง อเกวโร่ พยายามยิงแต่ไปติดบล็อคบอลกระดอนมาหา โฟลเด้น ตามมาซ้ำแต่บอลก็ออกหลังไปอีก
นาทีที่58 ทีมเยือนพยายามโวยจะเอาจุดโทษ เมื่อ อัลลี่ เอาบอลลงในกรอบด้านซ้ายแล้ว วอล์คเกอร์ ตามมาสกัดแต่เหมือนบอลโดนมือ กรรมการไม่ยอมเป่าว่าเป็นแฮนด์บอล
นาทีที่68 ซาเน่ที่เพิ่งลงสนามมาได้ลุ้นเลย เมื่อลากตัดจากริมเส้นซ้าย ก่อนซัดหักข้อไปที่เสาแรกแต่บอลหลุดออกหลังไป
นาทีที่71 เป็นไปได้ไง!! เรือใบสีฟ้าไม่ได้ประตูหนีห่าง จังหวะที่ ซาเน่ กระชากไปจนสุดเส้นหลังด้านซ้ายก่อนตบย้อนกลับมาให้ ราฮีม ขยับมายิงด้วยซ้ายบนกรอบหกหลา บอลเจ้ากรรมไปโดนขา กาซซานิก้า ที่ขยับไปอีกทาง ไม่ได้ประตูเฉยเลย
นาทีที่73 โอกาสเน้นๆของสเปอร์สวันนี้เลย คราวนี้เป็น มูร่า หลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษด้านขวาแต่จังหวะยิงก็ยังไปติดบล็อคของเอแดร์ซอนเหมือนเดิม
ช่วงท้ายเกมอัดกันหนักเลย มีอะไรให้ได้ลุ้นตลอด เพราะซิตี้พยายามคุมเชิงเอาสกอร์นำไว้ให้จบเกม
สุดท้าย หมดเวลาการแข่งขัน90นาทีสุดเดือด กองแช่งเซ็งกันถ้วนหน้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้เบียดชนะหวุดหวิด 1-0 พร้อมแซงลิเวอร์พูลขึ้นนำเป็นจ่าฝูงอีกครั้ง จากการมี 86 แต้มก่อนไปเจอแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดกลางสัปดาห์นี้
นายแว่น เทพบอลดึก