“ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ส” เปิดสนาม ท็อตแนมฮ็อต สเปอร์ส สเตเดี้ยม ต้อนรับการมาเยือนทีมอันดับ 2 ของตารางอย่าง “แมนเชสเตอร์ ซิตี้” ที่ต้องการเก็บชัยชนะเพื่อไล่จี้ จ่าฝูงอย่าง “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ที่ทำแต้มทิ้งห่างออกไป 22 แต้ม ในศึกพรีเมียร์ลีก นัดที่ 25 เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา

โดยเกมนี้ ทางด้านกุนซือของ “สเปอร์ส” อย่าง “โฆเซ่ มูรินโญ่” ได้ใส่ชื่อ “สตีเวน เบิร์กไวท์” นักเตะใหม่ป้ายแดงของทีม ออกสตาร์ทเป็น 11 ผู้เล่นตัวจริงของทีมในเกมนี้
ซึ่งในช่วงต้นครึ่งแรกต่างฝ่ายต่างผลักกันทำเกมรุก โดยอาศัยการพลาดของแนวรับของแต่ละทีมพลาด แต่ก็ไม่สามารถฉวยโอกาสตรงนั้นมาเป็นสกอร์ได้ จนมาในนาทีที่ 37 “เซร์คิโอ อเกโร่” ล้มลงไปในกรอบเขตโทษจากการเข้ามาสกัดของ “แซร์ช โอริเย่ร์” แนวรับของเจ้าถิ่น แต่ผู้ตัดสินในสนาม “ไมค์ ดีน” บอกว่าไม่ฟาวล์ ก่อนในเวลาต่อมาจะมีสัญญาณทางห้อง VAR ทำให้ผู้ตัดสินต้องหยุดการแข่งขัน ก่อนจะชี้ไปเป็นจุดโทษให้กับ “เรือใบสีฟ้า” แมนฯซิตี้
โดยผู้ที่รับหน้าที่สังหาาจุดโทษในครั้งนี้ คือ “อิลคาย กุนโดกัน” กองกลางวัย 29 ปีของ “แมนฯซิตี้” ซัดไปทางด้านขวามือของตนเอง แต่กลับติดดันไปติดเซฟของ “อูโก้ โยริส” ที่พุ่งไปถูกทาง และเซฟไว้ได้แม้ “ราฮีม สเตอร์ลิง” จะวิ่งมาซ้ำแต่ก็ทำไม่สำเร็จ จบครึ่งแรกทั้งสองทีมเสมอกันที่ 0-0

เริ่มครึ่งหลังมาได้ 15 นาที “แมนฯซิตี้” มาเหลือผู้เล่นเพียง 10 คน จากจังหวะไปตัดฟาวล์ของ “โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้” ใส่ “แฮร์รี่ วิงค์ส” ตรงบริเวณกลางสนาม ทำให้ผู้ตัดสินควักใบเหลืองที่ 2 เป็นใบแดง ไล่ออกจากสนามไป ในนาทีที่ 60
จากนั้นแค่ 3 นาที เมื่อ “ลูคัส มูร่า” ผ่านบอลเข้ามาตรงกลางให้กับ “สตีเวน เบิร์กไวท์” พักอกแล้ววอล์เล่ย์ไปด้วยขวา บอลพุ่งเสียบเข้าเสาสองไปแบบที่ “เอแดร์ซอน โมราเอส” ผู้รักษาประตูของ “แมนฯซิตี้” หมดสิทธิ์เซฟ และนี่คือประตูแรกของ “เบิร์กไวท์” กับสีเสื้อของ “สเปอร์ส” ในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ครั้งแรกของเขา ทำได้อย่างสวยงาม และพาทีมออกนำทีมเยือนอย่าง “แมนฯซิตี้” ไป 1-0 ในนาทีที่ 63
ก่อน “สเปอร์ส” จะมาปิดเกมในช่วงนาทีที่ 71 จากการทำเกมของ “ต็องกีย์ เอ็นดอมเบเล” ตัวสำรองที่ลงมา ก่อนจะแทงบอลให้ “ซน ฮึง มิน” หลุดเดี่ยวเข้าไปซัดด้วยขวา บอลเบียดเสาเข้าประตูไป “สเปอร์ส” หนีห่างไปเป็น 2-0 ก่อนในช่วงเวลาที่เหลือจะไม่มีสกอร์เกิดขึ้น จบเกม “ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ส” เก็บชัยชนะในบ้านต่อ “แมนเชสเตอร์ ซิตี้” 2-0

ทำให้ตอนนี้ “สเปอร์ส” ขึ้นมาอยู่อันดับที่ 5 มี 37 คะแนน ตามหลังอันดับที่ 4 อย่าง “เชลซี” อยู่แค่ 4 แต้ม ส่วนทางด้าน “แมนฯซิตี้” ยังอยู่อันดับที่ 2 เหมือนเดิม มี 51 คะแนน แต่โดนอันดับที่ 1 อย่าง “ลิเวอร์พูล” ทิ้งห่างออกไปถึง 22 แต้ม ทำให้เป็นไปได้ยากมากหากลูกทีมของ “เป๊ป กวาร์ดิโอล่า” ต้องการที่จะป้องกันแชมป์ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ในฤดูกาล 2019/20 ครั้งนี้ได้
ขอบคุณรูปภาพจาก Premier League #ข่าวกีฬา #ข่าวฟุตบอลไทย #วิเคราะห์ฟุตบอล